เมื่อวันที่ 26 ก.ย. ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายเกรียงไกรมาศ พจนสุนทร หรือเคนโด้ พิธีกร ผู้ประกาศ และนายอนุสรณ์ อะสุระพงษ์ หรือ ทนายพัฒน์ พา น.ส.วันวิสา ทองสุข 45 ปี พนักงานประจำ พร้อมตัวแทนผู้เสียหายกรณีซื้อทองออนไลน์จากร้านของ น.ส.กรกนก สุวรรณบุตร หรือ แม่ตั๊ก และนายกานต์พล เรืองอร่าม หรือ ป๋าเบียร์ กว่า 20 ราย จาก 155 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 2 ล้านบาท หอบหลักฐานเข้ายื่นหนังสือต่อ พ.ต.อ.ไกรวิศท์ แสนทวีสุข ผกก.1 บก.ปคบ. เพื่อขอให้ดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกงประชาชน

อ่วม! ตำรวจปคบ. ลุยตรวจสอบทอง ‘ร้านแม่ตั๊ก’ เล็งแจ้งข้อหาอื้อทั้ง ‘ฉ้อโกง-พ.ร.บ.คอมพ์’

นายเกรียงไกรมาศ เปิดเผยว่า ได้รับการติดต่อจากผู้เสียหายหลายท่าน สำหรับกรณีซื้อทองออนไลน์ โดยรวบรวมผู้เสียหายได้ทั้งหมด 155 ราย และคาดว่าจะมีเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งผู้เสียหายมีทั้งหมด 3 กลุ่ม คือ กลุ่มส่วนกลาง กลุ่มต่างจังหวัด และกลุ่มต่างประเทศ รวมมูลค่าความเสียหายในตอนนี้กว่า 2 ล้านบาท ซึ่งมีผู้เสียหายในบางราย ที่เคยไปแจ้งความไว้ที่ สภ.บ่อวิน จ.ชลบุรี แต่ตำรวจไม่รับแจ้งความ โดยให้เหตุผลว่าไม่ได้เข้าข่ายความผิดฉ้อโกง เพราะผู้เสียหายได้รับสินค้า แต่ไม่ตรวจสอบน้ำหนักทองก่อนรับสินค้า

นายอนุสรณ์ กล่าวว่า ปัญหาที่เจอตอนนี้ ผู้เสียหายส่วนใหญ่อยู่ต่างจังหวัดและต่างประเทศ ทำให้การรวมตัวผู้เสียหายเข้าแจ้งความเป็นไปได้ยาก ส่วนหลักฐานที่นำมาเข้าแจ้งความในวันนี้ มีหลักฐานการซื้อขาย ของแถมที่แม่ตั๊กมอบให้ และคลิปไลฟ์สดขายทองทางออนไลน์ ส่วนข้อหาที่จะแจ้งความในวันนี้ คือความผิดฐานฉ้อโกงและข้อหาฉ้อโกงประชาชน เนื่องจากเป็นความผิดอาญาแผ่นดิน ส่วนผู้เสียหายบางคนที่มีการเซ็นยินยอมไม่ดำเนินคดี เพื่อแลกกับการได้เงินคืนนั้น ก็ถือว่าเป็นสิทธิส่วนบุคคลของผู้เสียหาย แต่ผู้เสียหายกลุ่มนี้ ยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และไม่มีการยอมความแต่อย่างใด

ขณะที่ พ.ต.อ.ไกรวิศท์ กล่าวว่า สำหรับผู้เสียหายที่อยู่ต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ ที่ไม่สามารถเดินทางมาแจ้งความที่กองปราบฯ ได้นั้น สามารถแจ้งความออนไลน์ในระบบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่า ทางคู่กรณีจะเข้าข่ายความผิดใดบ้าง เพราะตอนนี้อยู่ในขั้นของการรวบรวมพยานหลักฐาน และสอบปากคำผู้เสียหายเพิ่มเติม.