แฟนอาร์เซนอลคนอื่นยังไงไม่รู้ แต่สำหรับผมแล้ว ผลบุกเสมอ ไบรท์ตัน 0-0 มันไม่ใช่ผลงานที่เลวร้ายแต่อย่างใด

แม้บางคนบอกว่าชื่อชั้นประวัติศาสตร์ห่างกันเยอะ แต่อย่าลืมว่าไบรท์ตันกำลังอยู่ในช่วงฟอร์มที่ดีที่สุด เผลอๆ น่าจะดีสุดในประวัติศาสตร์สโมสร

ไม่งั้นคงไม่สามารถเก็บ 14 แต้มจาก 7 นัด พวกเขามีฟอร์มการเล่นที่ไม่สมกับเป็นทีมเล็ก มีนักเตะที่ทั้งขยัน ทั้งวิ่งไล่ ทั้งไล่เพรส มีลูกหนัก ลูกตอด ลูกกลางอากาศ เอาจริงๆ มีทุกอย่างครบ ขาดแต่ความเฉียบคมในการทำประตูเท่านั้น

ขณะที่อาร์เซนอล 11 คนแรกเปลี่ยนแปลงแค่ตำแหน่งเดียว ด้วยการส่งแซมบี โลก็องกา มาแทน กรานิต ชาก้า ที่พักยาว 3 เดือน

รูปเกมก็ต้องยอมรับตามตรงว่าไบรท์ตันดีกว่า เท่าที่จำได้ อาร์เซนอล ไม่มีแม้แต่โอกาสสักครั้งที่จะเซ็ตบอลจากผู้รักษาประตูขึ้นมาได้เลย ทำได้แต่โยนยาวแล้วโดนอัดกลับมาเหมือนเตะบอลใส่กำแพง

อาร์เตตา ต้องกลับไปแก้จริงจังแล้วว่าจะแก้การโดนบีบแบบนี้ยังไง

อาร์เซนอล ทำได้แค่โต้กลับ ฟังดูอาจเสียศักดิ์ศรีไปหน่อย แต่ต้องชมไบรท์ตันว่าเล่นดีจริงๆ

แต่ถ้ามองแง่บวกคืออาร์เซนอลมีเกมรับที่ดีกว่าเดิม อย่างน้อยก็ดีกว่า 3 นัดแรกที่แพ้รวด แต่ที่ยังแก้ไม่ตกคือการจบสกอร์

“ปืนใหญ่” เพิ่งยิงแค่ 5 ประตูจาก 7 นัดแรก น้อยสุดนับแต่ฤดูกาล 1986-87

เพราะเกมมันอาจเป็นอีกอย่างหาก ซาก้า ยิงเข้าไปตั้งแต่นาทีแรกของเกม หรือเป็นอีกอย่างหาก โอบาเมยอง เข้าฟอร์มกว่านี้ หรืออาจเป็นอีกอย่างหาก สมิธ-โรว์ที่ได้ยิงเน้นๆ ในครึ่งหลังจะเด็ดขาดกว่านี้

แต่ก็พูดได้เช่นกันว่า “ปืนใหญ่” คงแพ้เยอะหากคู่แข่งไม่ใช่โอกาสสิ้นเปลืองเหลือเกินจากโอกาสยิงทั้งหมด 21 ครั้ง

อย่างไรก็ตามจากที่ออกสตาร์ตแพ้ 3 เกมรวด ตอนนี้ อาร์เซนอล มีเพิ่มเป็น 10 แต้มอยู่อันดับ 9 ห่างจากพื้นที่ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 4 แต้ม

อาจยังเร็วไปมากที่จะพูดถึงการชิงพื้นที่ยุโรป แต่มันหมายความว่าสถานการณ์สามารถเปลี่ยนแปลงเร็วและพลิกผันได้อีกเยอะ

อาร์เตตายังมีเวลามากพอให้ปรับปรุงทีม แต่ถ้าเริ่มกลับสู่ฟอร์มเลวร้ายอีกเมื่อใด เวลาที่เขาเคยมีจะยิ่งลดน้อยลงอย่างรวดเร็วทันที

เฮียเอง