สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงคาบูล ประเทศอัฟกานิสถาน เมื่อวันที่ 5 ก.ค.ว่านายซูฮาอิล ชาฮีน โฆษกประจำสำนักงานของกลุ่มตาลีบัน ที่กรุงโดฮา ในกาตาร์ กล่าวถึงความคืบหน้าของสหรัฐ ในการถอนทหารออกจากอัฟกานิสถาน หลังประจำการมานาน 20 ปี ว่าการถอนทหาร ไม่ได้หมายความเฉพาะทหารในเครื่องแบบสังกัดกองทัพสหรัฐ และพันธมิตร แต่ยังรวมถึงเจ้าหน้าที่พลเรือน และบรรดาพนักงานสัญญาจ้างด้านความมั่นคงของตะวันตกทั้งหมด "ไม่ควรอยู่ในอัฟกานิสถานอีกต่อไป"
หากสหรัฐยังคงเหลือเจ้าหน้าที่ประจำการอยู่ นั่นหมายถึงการที่รัฐบาลวอชิงตันเป็นฝ่ายละเมิดข้อตกลงโดฮา และคณะผู้นำของกลุ่มตาลีบันจะตัดสินใจ ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป  ทั้งนี้ ชาฮีนยืนยันว่า นักการทูตต่างชาติ พลเมืองต่างชาติ และเจ้าหน้าที่องค์กรระหว่างประเทศทุกแห่ง "ไม่ถือเป็นเป้าหมาย" ของกลุ่มตาลีบัน ซึ่งมีพันธกิจหลัก "เกี่ยวข้องกับทหารต่างชาติเท่านั้น" 
ขณะเดียวกัน โฆษกของกลุ่มตาลีบันกล่าวถึงการที่สหรัฐส่งมอบฐานทัพอากาศบาแกรม ซึ่งเป็นฐานทัพขนาดใหญ่ที่สุดของอัฟกานิสถาน กลับคืนให้แก่รัฐบาลคาบูล เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว "คือช่วงเวลาประวัติศาสตร์"  และกล่าวเป็นนัยเกี่ยวกับ "อนาคต" ของเมืองหลวงอัฟกานิสถาน ว่ากลุ่มตาลีบันไม่มีนโยบาย "ใช้มาตรการทางทหาร" 

ท่าทีดังกล่าวของกลุ่มตาลีบัน เกิดขึ้นท่ามกลางรายงานหลายกระแส ว่าสหรัฐต้องการประจำการทหารต่ออีกประมณ 1,000 นาย ไว้ในอัฟกานิสถาน แม้ผ่านพ้นเส้นตาย ในวันที่ 11 ก.ย.ปีนี้ เพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับท่าอากาศยานนานาชาติคาบูล และสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำกรุงคาบูล และหลายฝ่ายมีความกังวลมากขึ้น ว่ากองทัพอัฟกานิสถาน “เพียงลำพัง” จะสามารถต้านทานกลุ่มตาลีบันได้มากเพียงใด โดยปัจจุบันมีการประเมินว่า กลุ่มตาลีบันครองพื้นที่ประมาณ 1 ใน 3 ของอัฟกานิสถาน และกำลังรุกคืบพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนืออย่างต่อเนื่อง.

เครดิตภาพ : REUTERS